เรื่องกฎหมายว่าด้วยนิติกรรม
ความผูกพันของบุคคล
กฎหมายแบ่งความผูกพันของบุคคลออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1นิติกรรม ได้แก่ การกระทำใดๆของบุคคลโดยตั้งใจจะก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง
อันเป็นผลก่อให้เกิดความผูกพันกันตามกฎหมาย เช่น ทำสัญญาซื้อขาย สัญญาเช่าห้องพัก ชำระเงินกู้ ทำพินัยกรรม เป็นต้น
2 นิติเหตุ ได้แก่เหตุการณ์ธรรมชาติ หรือการกระทำของบุคคลซึ่งก่อให้เกิดผลในทางกฎหมายแบ่งออกเป็น 3 กรณีดังนี้
2.1 เหตุการณ์ธรรมชาติก่อให้เกิดผลทางกฎหมายเช่น การเกิด การบรรลุนิติภาวะ เป็นต้น
2.2 การกระทำของบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมายเช่น การครอบครองปรปักษ์ การจัดการงานนอกสั่งเป็นต้น
ความหมายของนิติกรรม มาตรา 149 ถึง 153 นิติกรรมหมายความว่า การใดๆอันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมาย และด้วยใจสมัครมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลเพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ์ มาตรา 149
องค์ประกอบของนิติกรรม
1 กระทำโดยการแสดงเจตนา
2 การแสดงเจตนาทำโดยสมัครใจ
3 วิธีการแสดงเจตนาชอบด้วยกฎหมาย
4 ผู้แสดงเจตนามุ่งที่จะก่อให้เกิดความผูกพันกันตามกฎหมาย
5 มีการเคลื่อนไหวในสิทธิคือเป็นการก่อเปลี่ยนแปลงโอนสงวนหรือระงับสิทธิ
ตัวอย่าง
ดำจดทะเบียนสิทธิเก็บกินบนที่ดินของตนให้แก่แดง เป็นการก่อให้เกิดสิทธิแก่แดง
ดำกู้เงินแดงต่อมาตกลงกันให้เขาชำระหนี้แทนดำด้วยข้าวเปลือก เช่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงสิทธิเรียกร้องจากเงินเป็นข้าวเปลือก
ดำทำสัญญาขายที่ดินแปลงหนึ่งให้แก่ขาว เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินจากดำไปยังขาว
ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ถือว่าทำให้อายุความสะดุดหยุดลง เป็นการสงวนสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้
เจ้าหนี้ปลดหนี้ให้ลูกหนี้ทำให้สิทธิเรียกร้องระงับลง
ประเภทของนิติกรรม
1 นิติกรรมฝ่ายเดียว คือการกระทำที่สมบูรณ์เป็นนิติกรรมได้โดยอาศัยการแสดงเจตนาจากบุคคลเพียงฝ่ายเดียวเช่น สัญญาค้ำประกัน การทําพินัยกรรม การตั้งมูลนิธิ การให้สัตยาบัน การบอกล้างโมฆียะกรรม เป็นต้น
2 นิติกรรมสองฝ่าย คือการกระทำที่สมบูรณ์เป็นนิติกรรมเมื่อมีการแสดงเจตนาจากบุคคลทั้งสองฝ่ายนั่นคือมีทั้งคำเสนอและคำสนองเช่น สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาซื้อขาย สัญญาให้เช่า สัญญากู้ยืมเงินเป็นต้น
ความสมบูรณ์ของนิติกรรม
นิติกรรมจะสมบูรณ์และใช้บังคับได้หรือไม่นอกจากจะพิจารณาองค์ประกอบของนิติกรรมดังกล่าวแล้วยังต้องพิจารณาถึงสิ่งต่อไปนี้ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ทั่วไปของความสมบูรณ์ของนิติกรรมด้วยดังนี้
1 ความสามารถของผู้ทำนิติกรรม
2 วัตถุประสงค์ของนิติกรรม
3 แบบของนิติกรรม
4 การแสดงเจตนาทำนิติกรรม
วัตถุประสงค์ของนิติกรรม
กฎหมายยอมให้บุคคลทำนิติกรรมอย่างกว้างขวางเว้นแต่กรณีต่อไปนี้จะเป็นโมฆะ
1 วัตถุประสงค์ของนิติกรรมเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ถ้าเป็นข้อห้ามตามกฎหมายอาญาคู่กรณีจะทำสัญญาฝ่าฝืนไม่ได้เลย มิฉะนั้นจะตกเป็นโมฆะเช่น ทำสัญญาจ้างฆ่าคนทำสัญญาซื้อขายยาเสพติดเป็นต้น
ถ้าเป็นกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คู่สัญญาอาจตกลงเป็นอย่างอื่นได้ถ้าไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ตัวอย่าง
กู้ยืมเงินระหว่างบุคคลคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีสัญญาเฉพาะส่วนดอกเบี้ยเป็นโมฆะ
สัญญาเช่าซื้อซึ่งกำหนดว่า ถ้าผิดนัดชำระคราวเดียวให้ผู้เช่าบอกเลิกสัญญาได้เช่นนี้ เป็นเรื่องไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนสัญญาบังคับได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น