เรื่องนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
นิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประกอบด้วย ืทบวงการเมือง สมาคม ิ มูลนิธิ ห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนแล้วและ บริษัทจำกัด
ทบวงการเมือง ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม ซึ่งเป็นการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง แต่ส่วนราชการที่ต่ำกว่ากรม เช่น กอง แผนก เป็นต้น ไม่เป็นนิติบุคคล
จังหวัด เป็นการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาค จัดเป็นนิติบุคคล
องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล เป็นการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เหล่านี้เป็นนิติบุคคล
สมาคม
สมาคมคือองค์การที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจการใดกิจการหนึ่งที่ไม่ได้หวังผลกำไรสมาคมต้องมีข้อบังคับและจดทะเบียนต่อนายทะเบียน
ข้อบังคับของสมาคมอย่างน้อยต้องมีรายการต่อไปนี้ ชื่อสมาคม วัตถุประสงค์ ที่ตั้ง วิธีรับสมาชิก การขาดจากสมาชิกภาพ อัตราค่าบำรุง คณะกรรมการ การจัดการสมาคม การบัญชี และทรัพย์สิน
มูลนิธิ
มูลนิธิคือทรัพย์สินที่ได้จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยไม่ได้มุ่งหาประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียนแล้ว
มูลนิธิต้องมีข้อบังคับ และต้องมีคณะกรรมการประชุมด้วย บุคคลอย่างน้อย 3 คนเป็นผู้ดำเนินกิจการของมูลนิธิ
ข้อบังคับของมูลนิธิอย่างน้อยต้องมีรายการต่อไปนี้ คือ ชื่อมูลนิธิ วัตถุประสงค์ ทรัพย์สินขณะจัดตั้ง ข้อกำหนดเกี่ยวกับกรรมการ การจัดการมูลนิธิ
ห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนแล้ว
ห้างหุ้นส่วนคือ บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงทำกิจการร่วมกันเพื่อแสวงหากำไรมาแบ่งปันกันการดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนต้องอยู่ในกรอบของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัท
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนแล้ว และห้างหุ้นส่วนจำกัด มีฐานะเป็นนิติบุคคล
บริษัทจำกัด
บริษัทคือธุรกิจที่ตั้งขึ้นด้วยการแบ่งทุนออกเป็นหุ้น หุ้นละเท่ากันโดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังทรงใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ บริษัทต้องจดทะเบียนเสมอ การดำเนินงานของบริษัทต้องอยู่ในกรอบของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยบริษัท
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
1 การที่บุตรผู้เยาว์ทำสัญญาเป็นมูลหนี้แทนบิดาซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจทางปกครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลนั้นย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจปกครองกับประโยชน์ของผู้เยาว์อย่างชัดแจ้ง สัญญาดังกล่าวถือเป็นโมฆะ จะบังคับเอาแก่ผู้เยาว์นั้นไม่ได้
2 นิติกรรมที่โจทก์ทำกับจำเลยในขณะที่โจทก์เป็นผู้เยาว์ แต่ไม่ได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมนั้นเป็นโมฆียะ เมื่อนิติกรรมนั้นไม่ได้บอกล้าง จึงมีผลผูกพันโจทก์อยู่
3 ผู้เยาว์อายุ 18 ปี มีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียนย่อมยังไม่บรรลุนิติภาวะ
4 เจ้าพนักงานที่ดินไม่ตรวจสอบโฉนดตามที่มีโอกาสตรวจ จึงไม่ทราบว่าโฉนดปลอม เป็นประมาทเลินเล่อทำให้เจ้าของที่ดินเสียหาย กรมที่ดินต้องรับผิดชอบในการกระทำของพนักงานที่ดิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น